Youtube: บุกพิสูจน์ "ถ้ำมืด" หรือถ้ำปาฏิหาริย์ ณ จ.อุบลราชธานี ที่เชื่อกันว่าลอดฝั่งไทยโผล่ฝั่งลาวได้
Post by: พญานาค
Published on Jul 3,2017
02:28 p.m.
In my room
คืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 เวลาประมาณ 21:45 นาฬิกา-นับว่าเป็นวินาทีที่คนไทยทั้งประเทศรอคอยกันมาร่วม 1 สัปดาห์เศษๆ-เมื่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย-ได้รับรายงานจากหน่วยซีลว่า-ได้พบ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอนแล้ว-และ-เวลาประมาณ 22:00 นาฬิกา-จึงได้รับรายงานการยืนยันจากหน่วยซีลอีกครั้งว่า-ได้พบ 13 ชีวิต-ในบริเวณที่เรียกว่า"เนินนมสาว"นั้น--เป็นความจริง!!
จากไทม์ไลน์ของทั้ง 13 ชีวิต-ที่ได้เข้าไปเที่ยวในถ้ำตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา-"พวกเขา"-ตั้งใจเข้าไปฉลองวันเกิดของ 1 ในสมาชิกของทีมที่นั่น-พร้อมเตรียมน้ำดื่ม,ขนมขบเคี้ยวไปด้วยจำนวนหนึ่ง--พวกเขาไปถึงที่ถ้ำแห่งนั้น-เวลาประมาณ 15.00 นาฬิกา-และ-เข้าไปภายในถ้ำหลังจากเวลาดังกล่าว
จากการเสิร์ชหาข้อมูล-เวลาเข้าเยี่ยมชมถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน-จาก-สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-ได้เคยให้ข้อมูลในเว็บไซต์ไว้ว่า-"ถ้ำหลวง"-จะปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมพื้นที่ถ้ำ-ตั้งแต่เริ่มต้นช่วงฤดูฝน--เนื่องจากน้ำจะไหลเข้ามาท่วมภายในถ้ำ-ซึ่งจะไม่ปลอดภัย
ฉันเลยอดสงสัยไม่ได้ว่า-เริ่มต้นฤดูฝนของไทยนี่คือประมาณเดือนมิถุนายน-มิใช่หรือ--แล้วทำไมทางอุทยานแห่งชาติขุนน้ำนางนอน-ยังไม่ประกาศปิดห้ามเข้าเยี่ยมชมถ้ำอีก
ฉันเลยอดสงสัยไม่ได้ว่า-เริ่มต้นฤดูฝนของไทยนี่คือประมาณเดือนมิถุนายน-มิใช่หรือ--แล้วทำไมทางอุทยานแห่งชาติขุนน้ำนางนอน-ยังไม่ประกาศปิดห้ามเข้าเยี่ยมชมถ้ำอีก
และทั้ง 13 ชีวิต-เป็นคนในพื้นที่-ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงราย-และรู้ลักษณะโครงสร้างภายในถ้ำอยู่บ้างพอสมควร-เพราะเคยเข้าไปในถ้ำหลายครั้ง-ซึ่งก็ต้องรู้ว่า-ในช่วงเวลานี้ของประเทศไทย-คือฤดูฝน-และมีฝนตกชุกในเขตภาคเหนือ--จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า-ถ้าฝนตกหนัก-น้ำฝนจะทำให้น้ำภายในถ้ำสูงขึ้น--"พวกเขา"-ประมาทกับชีวิตเกินไป!!
ฉันอยากให้ทุกคน-มองสิ่งต่างๆในทุกมุม-ทุกด้าน-ทั้งทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี-และ-ทางความเชื่อของอีกมิติหนึ่งในโลกคู่ขนาน-ลองมองสิ่งต่างๆ แบบกระจก 6 ด้านกันดูบ้าง-ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา
พระอาจารย์สายป่าองค์หนึ่ง-ท่านให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของ"เมืองบังบด"ไว้เป็นวิทยาทานว่า--ประตูมิติเวลาของเมืองบังบด-จะเปิดหลังจาก 17:00 นาฬิกา-และ-1 วัน ในมิติบังบด เท่ากับ 7 วัน ในมิติมนุษย์--พระอาจารย์สายป่าองค์เดิมท่านยังบอกอีกว่า-ชาวบังบดจะยอมปล่อย 13 หมูป่าออกจากถ้ำ-ภายใน 7 วัน ในมิติของเมืองบังบด!!
ฉันมานั่งวิเคราะห์แบบบ้านๆ--13 ชีวิตหมูป่า-ติดอยู่ในกลางถ้ำ-ช่วงเวลาประมาณ 17:00 นาฬิกาไปแล้ว-ในขณะที่ด้านนอกถ้ำฝนตกหนัก-น้ำภายในถ้ำเริ่มสูงขึ้นจนปิดทางเข้า-ทำให้ต้องเดินลึกเข้าไป--เวลาผ่านไป 7 วันในมิติมนุษย์-ยังหาตัวทั้ง 13 ชีวิตไม่พบ-มาพบเจอในวันที่ 9-หลังจากการทำพิธีขอขมากรรม-และ-แผ่เมตตาให้กับสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น-ที่อยู่ในอีกมิติหนึ่งภายในถ้ำ
แม้แต่นักดำน้ำถ้ำชาวอังกฤษ มิสเตอร์ จอห์น โวลันไทน์-ยังบอกว่า-ถ้าเชือกที่เขานำไปปักตามแนวดินของถ้ำ-เพื่อใช้เป็นเชือกแนวเกาะ-ให้นักดำน้ำและหน่วยซีลอื่นๆดำตามกันมา-ไม่ให้หลงถ้ำ-และถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดไป-ไม่หมดลงเสียก่อน--และ-ในจังหวะที่ปลายเชือกหมดลง-ทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นสู่ผิวน้ำ-ณ วินาทีนั้นเอง-เขาก็ได้พบดวงตา 13 คู่ของทั้ง 13 ชีวิต
"พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า-ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีคำว่าเหตุบังเอิญ"--แต่-ในขณะนี้ทั้ง 13 ชีวิตยังคงอยู่ภายในถ้ำเป็นวันที่ 11--ถ้าคำที่พระสายป่าองค์นั้นเป็นจริง-วันที่ 7 ในมิติของเมืองบังบด-จะเท่ากับวันที่ 11 สิงหาคม ในมิติของเมืองมนุษย์
"พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า-ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีคำว่าเหตุบังเอิญ"--แต่-ในขณะนี้ทั้ง 13 ชีวิตยังคงอยู่ภายในถ้ำเป็นวันที่ 11--ถ้าคำที่พระสายป่าองค์นั้นเป็นจริง-วันที่ 7 ในมิติของเมืองบังบด-จะเท่ากับวันที่ 11 สิงหาคม ในมิติของเมืองมนุษย์
วันนี้ในเวลาประมาณ 18.00 นาฬิกา-พระครูบาบุญชุ่ม กลับมาทำพิธีขอขมากรรม-และ-แผ่เมตตาให้กับสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น-ที่อยู่ในถ้ำหลวงนี้อีกครั้ง-พร้อมนำผ้าไตร 13 ชุดมาด้วย--ฉันก็ขอภาวนาว่า-อานิสงค์ผลบุญของผ้ากาสาวพัตร-คงจะทำให้ดวงวิญญาณที่อยู่ในโลกอีกมิติหนึ่ง-กล่าวอนุโมทนารับเอาผลบุญในครั้งนี้ด้วย เทอญ
เรื่องเมืองบังบดนี้-เคยเกิดขึ้นมาแล้ว-ตามคลิปที่ฉันนำมาฝาก-"เมืองบาดาล"-และ-"เมืองบังบด"-มักจะอยู่ร่วมกันเสมอ-ในโลกอีกมิติหนึ่ง-ซึ่งมนุษย์กายหยาบ-ที่ยังไม่ละกิเลส-ไม่สามารถพบเจอได้-นอกจาก-บุคคลผู้มีบุญสัมพันธ์-หรือกรรมผูกพัน-กับมิตินั้นเท่านั้น-ที่จะสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นได้--และใครก็ตามที่ไม่เคยพบเจอ-หรือไม่สามารถสัมผัสได้-ก็จะหัวเราะ-และ-มองว่าเป็นเรื่องตลกไร้สาระสำหรับมนุษย์-ในยุค 4.0
นอนก่อนนะ ฝันดีกันทุกคน
No comments:
Post a Comment