Followers

Thursday, June 28, 2018

รวมประสบการณ์ ผู้รอดชีวิตจากอาถรรพ์ติดอยู่ใน "ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน"


Youtube: ขนลุกสุดๆ!! รวมประสบการณ์จริง ผู้รอดชีวิตจากอาถรรพ์ติดอยู่ในถ้ำหลวง "ขุนน้ำนางนอน"
Post by: plodlock-ปลดล็อค
Published on Jun 27,2018


7:07 p.m.
In my room


พวกคุณคงเคยได้ยินคำถามเหล่านี้มาบ้าง-เช่น-"สิ่งลี้ลับมีจริงไหม?-มีโลกคู่ขนานในมิติอื่นจริงหรือ?-เมืองบังบดอยู่ที่ไหน?"-และคำถามอื่นๆในทำนองนี้-อีกมากมาย--ถ้าถามฉัน-ฉันไม่รู้หรอกว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงหรือไม่-แต่-ฉันรู้ว่า-ฉันสัมผัสสายลม-ยามที่กระทบผิวกายได้--แม้จะไม่มีรูปร่างตัวตนให้เห็นด้วยตาเปล่า


จากเย็นวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา-จนกระทั่งถึงเย็น-วันที่ 28 มิถุนายน-ทั้ง 13 ชีวิตก็ยังไม่กลับออกมาจาก"ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน"-และ-พวกเราทั้งประเทศยังอฐิษฐานและภาวนากันต่อไป-อย่างมีความหวัง


ฉันนำเรื่องราวจากยูทูป-ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรง-ของพระอาจารย์ท่านหนึ่งจากพุทธอุทยานบุญญพลัง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี-ที่เคยเดินทางเข้าไปที่ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน-และได้เผชิญเรื่องราวลี้ลับ-เกี่ยวกับอาถรรพ์ของถ้ำแห่งนี้-ซึ่งได้เปิดเผยกับทีมข่าวปาฏิหาริย์--มาเล่าสู่กันฟัง


โดยพระอาจารย์ท่านเล่าว่า--"ถ้ำหลวงแห่งนี้ ข้าเคยพาพวกเราเข้าไปกัน--ครั้งนั้นเข้าไปกันราว 40 คนเศษ-ที่เข้าไปก็เพราะ..มีพลังงานที่เป็นวิญญาณที่ถ้ำขุนน้ำนางนอน เขาขอให้เข้าไป--บริเวณแถวนั้นมันติดๆกัน มีหลายถ้ำมากมายยาวติดกันไปเป็นเทือก-ออกไปถึงพม่าได้-สมัยก่อนใช้เป็นทางหลบหลีกหนีกองทัพ-หนีภัยยามบ้านเมืองเกิดสงคราม-และเป็นที่ทำพิธีตัดไม้ข่มนาม-บวงสรวงให้แผ่นดินปลอดภัย


ตอนแรกนั้น-ที่เราทำพิธีถวายองค์พระเพื่อแผ่นดิน-ให้แก่เหล่าเทวาที่นั่น-เพื่อความผาสุกแก่เหล่าอดีตวิญญาณและเทพารักษ์--ซึ่งวันนั้น-เราไปกันเยอะ-ที่ไปกันเยอะนี่-ก็แค่อยากจะไปเห็นเหล่าผีเข้าพวกเรานั่นแหละ-มันอยากเห็นคนโดนผีเข้า-อยากรู้ว่าผีจะพูดอะไร-อยากรู้อะไรที่ไม่เคยเห็นไม่เคยฟัง-พูดง่ายๆว่า-อยากเสือกเรื่องของผีเขา-เสือกนี่-เป็นอาหารว่างรสชาติดี--แต่ทว่า!.วันนั้น-เหล่าผีเทวาชั้นสูงมีบุญบารมีเขาลงมารับบุญกุศลเอง-เหล่าชั้นรองๆลงไป ก็เลยไม่กล้าออกมาแหยม


แต่วันนั้นผีเยอะ-เข้ามารับบุญกุศลเยอะ--ผีเข้าเหมือนกัน--แต่เข้าแล้วนั่งสงบเสงี่ยมเป็นนางสาวไทย-ไม่ร้องไห้ฟูมฟายแบบครั้งก่อน-พูดมากไป คนมันก็จะดราม่าอีก-เคยเล่าให้ฟังไปแล้ว


เมื่อทำพิธีเสร็จ-มีวิญญาณพราหมณ์เจ้าพิธีดูแลถ้ำ-ได้เชิญให้ข้าเข้าไปเยี่ยมเยือนถ้ำใหญ่-ถ้ำใหญ่นี่ก็คือถ้ำหลวงนี่แหละ-เขาอยากให้ข้าไปกัน-"ที่นั่นเป็นบ้านเป็นเมืองที่เขาอาศัย"-ข้าเลยตกลง-ไป--อยู่ตรงไหนก็ยังไม่รู้--ที่ถ้ำหลวงนั้น-คนของเราเคยเป็นหัวหน้าป่าไม้ที่นั่น


ที่นั่น-มี-"เจ้าแม่เฝ้าถ้ำ"-ซึ่งก็เป็นพลังงานที่แรงอยู่เหมือนกัน-ข้าขนหัวลุกตั้ง--เมื่อไปถึง-วิญญาณเชิญให้เดินทางเข้าไป-ข้าก็เลยนำทางเข้าไป--ถ้ำกว้าง-มืด-และ-ลึก-มีอากาศถ่ายเท-แสดงว่าต้องมีทางทะลุออกไป--เราเข้าไปลึก-จนถึงเส้นทางที่เพดานถ้ำต่ำ-ต้องคลานเข้าไป--เมื่อหลุดพ้นจากถ้ำเพดานต่ำ-ก็จะเจอถ้ำเป็นโถงใหญ่-มีหลายช่องทาง-เป็นถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมาย


หลังจากนั้น--ข้ามาคิดดูแล้ว-พวกเรามากันมากมาย-อาจจะหลงพลัดพรากจากกันได้--ข้าก็เลยหันหลังกลับ-พอหันหลังกลับ-"เมียเจ้า-นักรบที่เป็นพม่า"-ก็ร้องกรี๊ดเสียงดัง-ร้องห่มร้องไห้-โกรธเคือง-น้อยอกน้อยใจ-ว่าทำไมหลวงพ่อเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว-ไม่ไปโปรด-ไม่ไปเยี่ยม-เหล่าลูกหลานที่รอคอยมานานแสนนานเล่า-กลับทำไม-ทำไมไม่ไปต่อให้ถึงจุดรอคอย-"พวกเขา"-ต่างรอคอยอยู่ที่นั่น


แต่ข้าไม่สนใจหรอก--ผีทั้งนั้น!!-ไม่ไหว-เกิดพูดไม่รู้เรื่องกันขึ้นมา-วิ่งกันน้ำบานเลย-มืดซะด้วย--ข้าหันหลังกลับ-มันก็ร้องไห้คร่ำครวญ-คุกเข่าตรงนั้นแหละ-ทุกคนคิดว่า-นางสติแตก-ร้องห่มร้องไห้โวยวายที่ไม่ไปต่อ--นั่นมันผีนะเว้ยเฮ้ย!!-ผีเจ้า-เอาแต่ใจ-ข้าเดินสวนกลับ-แต่มีบางคนยัง-"เดินทื่อ"-จะเข้าไปให้ได้-ทุกคนก็พยายามร้องเรียก-ว่าหลวงพ่อกลับแล้ว-แต่เจ้านั่นรู้สึกว่าจะเป็น-เจ้านพ,เจ้านกฮูกหรือไง-ดันไม่ได้ยิน--ที่สำคัญ--พวกนี้มันไม่ได้มองเห็นว่า-"มืด"-อย่างที่พวกเราเห็นว่ามืด--พวกนี้มันเห็นว่าหนทางมัน-"สว่าง"


ข้าเห็นความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง-จึงหวนเดินกลับ-เดินไป-แผ่เมตตาไป--สักพักก็ได้ยินว่า-พวกที่เดินเข้าไปนั้น-วกกลับออกมาแล้ว--ข้าจึงให้ทุกคนมารวมตัวกัน-แล้วปิดไฟทุกดวง--ความมืดสนิทก็เข้ามาครอบงำ-ทุกคนจึงเห็นชัดว่า-ภายในถ้ำนั้นมันมืดสนิทมองไม่เห็นอะไรเลย--ข้านำขอขมากรรมต่อผืนแผ่นดิน-และนำทุกคนสวดมนต์พุทธัง--ในความมืดนั้น-ข้าน่ะ-มองเห็นทุกคน-ข้าจึงเดินไปหาป๋าเอ๋-ที่แกแอบนั่งอยู่บนก้อนหิน-กะไปแกล้งป๋าเอ๋-แกนั่งห่างจากกลุ่มราว 50 เมตร-พอดีสวดมนต์กันเสร็จ-จึงพากันแผ่เมตตา--บางคนบอกว่า-ขณะสวดพุทธัง-เขามีอาการปิติ-อยากจะตะโกน-ตัวสั่น-คุมไม่อยู่--ข้าเห็นอาการหลายคน-เหมือนผีจะเข้า-จึงเดินเลี่ยงออกมาจากกลุ่มในความมืดนั้น-ขืนอยู่-เดี๋ยวเกิดแปลงกายกันขึ้นมา-ข้าจะวิ่งน้ำบานเอา


ซักพักใหญ่-ก็เจอพวกเจ้าโน้ต,เจ้าฝ้าย-และเจ้าหมอผ่าศพ ลูกน้องหมอพรทิพย์-ผมกระเซิงมา--พวกมันเก่งนะ-เดินตามกันเข้ามาหลังสวดมนต์และแผ่เมตตาแล้ว-โดยไม่ต้องใช้ไฟฉาย-"มันเดินกันเข้ามาได้-จากอีกช่องทางนึง-ที่เราไม่ได้เดินกันออกมา"--แต่พวกเราเดินทะลุกันออกมาทางช่องแคบๆนั้นได้-แต่มันบอกว่า-"กว้าง-และ-ไม่เห็นจะมืดอะไรเลย"--พวกนี้ไม่ได้ใช้ไฟฉาย-พวกนี้มี-"ผีสิง"-เจ้าฝ้าย-พากันเดินแบบสบายใจ--นี่ถ้าข้ายังเดินต่อไป-เจ้ากลุ่มพวกนี้จะออกไปอีกทาง-ข้าก็ไปอีกทาง-ไม่รู้จะเจอกันรึเปล่า-ทั้งๆที่ตอนเข้ามา-ทางที่ข้าเห็น-มันก็มีเส้นทางเดียว-ไม่มีแยก--แต่ของเจ้าพวกนี้ที่ตามๆมา-มันมีแยก-และที่สำคัญ-"พวกนี้เดินได้โดยไม่ใช้ไฟฉายนำ"-มันเดินดุ่มๆกันไป-เถียงกันเรื่องเส้นทาง-โดยไม่รู้ว่า-เถียงกันอยู่กับผี!!


เรื่องพวกนี้-ใครไม่เคยประสบ-ย่อมดูเป็นเรื่องเหลวไหล--คราวนี้-ก็ย้อนมาถึงวันนี้-วันที่มีคนมาถามข้า-เกี่ยวกับเด็กๆทั้ง 12 คน--เด็กๆ พวกนั้น-ก็คงเป็นเช่นเดียวกับพวกเจ้าโน้ต,เจ้าฝ้าย นั่นแหละ--คือ-"เดินเข้าไปโดยไม่ต้องใช้ไฟฉาย"-เส้นทางจะสามารถมองเห็นได้ตลอด-เพราะพวกเขา-เท่าที่ทราบมา-พวกเขาไปซ้อมกีฬา-คือเตะบอลกัน-คงผ่านมาทางขุนน้ำนางนอน-แล้วแวะเข้าไปพัก-คงกะเที่ยวถ้ำสนุกๆเพราะผ่านมาเท่านั้น-เพราะเวลานั้นก็ 5 โมงเย็นแล้ว-ไฟฉายก็คงไม่ได้พกมาเพื่อเที่ยวถ้ำกันหรอก-อาจจะแค่แวะเที่ยว


คราวนี้-แม้จะเป็นเวลาเย็น-แต่ที่นั่น-พลังงานวิญญาณเขามี-หากใครมี-"สัญญาต่อกันทางวิบาก"พวกเขา"ก็อาจเข้าไปในถ้ำที่มืดสนิทนั้น-โดย-"ไม่ต้องใช้ไฟฉาย"-และมีความรู้สึก-อยากเดิน-"ลึก"-เข้าไปเรื่อยๆ-จะไม่รู้สึกดูน่ากลัว-เหมือนกับพวกเจ้าโน้ตมันเคยเผชิญมา--เส้นทาง-มันก็เห็นๆกันนี่แหละ-เดินตามกันอยู่ดีๆ-เส้นทางก็เป็นทางทึบตันไปซะนี่-ทางเลี้ยวเข้าช่องนั้นช่องนี้-ให้แตกแยกกลุ่มกันออกไป


นี่ทางเวทมนต์คาถา-เขาเรียกว่า-"วิชาบังบด"--มีวิชา-บังไพร,บังรูป,บังอร,บังเอิญ อะไรอีกเยอะแยะ-เด็กๆพวกนี้หาตามวิสัยโลกจะหายาก-ไม่อาจเจอ-พวกหาต้องใช้ไฟส่องหา-แต่พวกเขาเดินสบาย-ไม่ต้องใช้ไฟส่องทางเดิน--เรื่องเช่นนี้-คนไม่เจอ-มันก็ผิดธรรมชาติเนอะ-เชื่อยาก--จริงๆ เด็กเข้าไปไม่ลึกซักเท่าไหร่หรอก-แต่มองไม่เห็นนะ--เด็กก็มองไม่เห็นคนที่ตามหาพวกเขาเหมือนกัน


ที่นั่น-มีอะไรแปลกๆ-ที่คาดไม่ถึง--จู่ๆ-ผีก็เข้าคนของข้า-ต้องหามกันมาก็หลายคน--ของข้านั้น-เขาอยากให้ไปเยือน-เขาอยากให้ไปอนุโมทนาบุญ-ซึ่งข้าก็ทำให้แล้ว-เรื่อง"ถ้ำหลวงนี้-ถ้าไม่จำเป็น-ก็อย่าเข้าไปเสี่ยงเลย"--มันมี-"ก-า-ล"-ที่ซ่อนพิลึกกึกกืออยู่-มีแร่แปลกๆมากมาย-มีสินแร่ที่มีค่ามากมาย-คนตายกันมากมาย-เป็นที่เคารพสักการะต่อพิธีกรรมต่างๆมานาน-ถ้าอยากเข้าไปก็ศึกษาแผนที่และการวางแผนให้ดีๆ-หน้าฝนนี่-อย่าเข้าไป-เพราะอาจเผชิญกับน้ำหลากที่ท่วมสูงถึงเพดานถ้ำอย่างรวดเร็ว--ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ข้ากล่าวถึงให้ฟัง-ขอให้สุข-สมหวัง-กันทุกคน-ขอให้เจอเด็กรอดออกมาปลอดภัย"--พระอาจารย์ท่านกล่าวทิ้งท้าย



เรื่องเร้นลับและมิติเวลา-ยังคงเป็นเรื่องที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาตร์-และยังหาบทสรุปไม่ได้-พวกเราจึงเรียกมันว่า-เหนือ-"ธรรมชาติ"--เพราะสิ่งนั้นมันอยู่-เหนือ-"คำอธิบาย"-ใดๆ..นั่นเอง



ขอภาวนาให้ทั้ง 13 ชีวิตกลับออกมาจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อย่างปลอดภัย - แล้วเจอกันใหม่




No comments:

Post a Comment

Happiness is here and now - Plum Village Song

Youtube: Happiness is here and now - Plum Village Song Post by: phuongboipress phapcau Published on Nov 8,2011 14:29 p.m. In...