จับมือกันแล้วนะจ๊ะ (จะมีจุ๊บปากกันมั้ย?)

Photo by:  www.bbc.com

9:45 p.m.

In my room

เรื่องที่จะเขียนลงในไดอารี่ของฉันเย็นนี้-ก็ตามรูปที่จั่วหัวไว้นี่แหละ--โดนัลด์ ทรัมป์ Donald Trump-และ-คิม จอง อึน Kim Jong-un--ในการประชุมครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของผู้นำเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเกิดขึ้นในเช้าวันที่ 12 มิถุนายน 2561 นี้เองที่ประเทศสิงค์โปร์ เป็นการลงนามในสัญญาที่ทรัมป์เรียกว่า-"เป็นเอกสารที่ครอบคลุมประเด็นต่างๆ"-เป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาตร์ที่โลกต้องจารึก--ดังนั้นฉันจึงบันทึกเหตุการณ์ครั้งสำคัญนี้-ไว้ให้ลูกหลานเหลนลื้อได้อ่านในอนาคต-เพราะคอมพิวเตอร์สามารถเก็บหลักฐานในสื่อออนไลน์ไว้ได้หลายร้อยปี--ตามนั้น!

เกาหลีเหนือได้ให้คำสัญญาว่า-จะดำเนินการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบรูณ์บนคาบสมุทรเกาหลี-คิมได้กล่าวผ่านล่าม-หลังจากลงนามในสัญญาว่า--"เราได้ทิ้งอดีตไว้ข้างหลังและโลกจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่"--และเขายังกล่าวขอบคุณทรัมป์ที่ทำให้การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้น

ส่วนทรัมป์กล่าวว่า--"วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมและเราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันและเกี่ยวกับประเทศของเราอย่างมาก"--ทรัมป์กล่าวถึงคิมเพิ่มว่า--"คิม จอง อึน เป็นคนที่เปี่ยมอัจฉริยภาพและเขารักประเทศของเขามาก"--(ก็แล้วใครจะไม่รักประเทศตัวเอง-มากถึงมากที่สุดกันละคร้า-ท่านทรัมป์😕😕)

พี่จีนก็ได้แสดงความชื่นชมในการประชุมประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วย--"ผู้นำทั้งสองสามารถนั่งลงและเจรจากันแบบเท่าเทียมกัน-มีความหมายในทางบวก-และมีความสำคัญอย่างยิ่ง-รวมทั้งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วย"--นายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของพี่จีนกล่าว--(ตรรกะง่ายๆในการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรา-ถ้าไม่ตีกันไม่ทะเลาะกัน-ไฉนเลยจะมีสงคราม--พวกคุณว่ามั้ย)

ตลอดระยะเวลา 6 ปีของการดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือของคิม เขาไม่ยอมเดินทางออกนอกประเทศเลย--ผู้สันทัดกรณีอธิบายว่า--เพราะคิมยังไม่มีความวางใจต่อการปฏิวัติในประเทศ-ถ้าเขาจะต้องเดินทางไปต่างประเทศนั่นเอง--แต่--เมื่อต้นปีที่ผ่านมา-คิมเดือนทางไปเยือนพี่จีนถึงถิ่นมาแล้วสองครั้ง-เคยข้ามเขตแดนไปเกาหลีใต้-วันนี้เดินทางมาสิงค์โปร์-และคาดว่าจะไปเยือนลุงปูตินถึงแดนหมีขาวรัสเซียในเดือนกันยายน--(รถถังจะเคลื่อนที่-เมื่อเครื่องยนต์พร้อม-และน้ำมันเต็มถังใช่มั้ย)

ในเว็บข่าว www.bbc.com ที่นำเสนอข่าวในวันนี้--เนื่องจากเป็นการประชุมสุดยอดที่ไม่มีอะไรเล็ดรอดออกไปได้-แม้กระทั่งเรื่องของ-"ลายเซ็น"-จอห์น นิลส์สันไรท์-นักวิเคราะห์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ-ได้ชี้ให้ชาวโลกได้เห็นนัยความหมายที่แฝงอยู่ในลายเซ็นของสองผู้นำ   

Photo by: www.bbc.com

สิ่งที่-ทรัมป์แสดงออกมาในลายเซ็นของเขาคือ--"ความมั่นใจในตัวเองที่ต้องการให้ภารกิจเสร็จลงในระยะเวลาอันสั้น"--ส่วนของ-คิม จอง อึน--ลายเซ็นของเขาแสดงถึง--"ความทะเยอทะยานและพร้อมจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์"-(อะไรกันนี่..แม่นอย่างกับตาเห็น)

ถ้าจะไม่พูดถึง-พี่ยุ่นกับพี่เกาหลีใต้เพื่อนบ้านของเราก็คงไม่ได้-เพราะทรัมป์มีกาวใจที่เหนี่ยวแน่นกับพี่ยุ่นและพี่เกาหลีใต้มากกว่าพี่จีน--ในรายงานข่าวกล่าวว่า--นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตภาพของเขากำลังโทรศัพท์พร้อมแคปเจอร์ว่ากำลังคุยอยู่กับ-นายทาโร คาโนะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น-และ-นายคัง คยุง-ฮวา รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้--อ่านตรงนี้ให้ดีๆ นะ--เพื่อ--ให้รายละเอียดว่าทรัมป์และคิมเจรจาเรื่องอะไรกันบ้าง-(ถ้าพูดกันแบบบ้านๆ ภาษาอีสานของฉันก็ต้องบอกว่า--เพิ่นกำลังส่อให้กันฟังซั่นแหล่ว--😜😜)

เมื่อนักข่าวถามทรัมป์ว่า-ทำไมถึงยกเลิกการซ้อมรบกับเกาหลีใต้-ทรัมป์ตอบว่า--"เราได้ซ้อมรบกับเกาหลีใต้ต่อเนื่องกันมานาน-เราเรียกมันว่า-เกมการรบ-ซึ่งมีราคาแพงมาก-ในขณะที่เกาหลีใต้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย--แต่ก็ไม่ทั้งหมด!!--เราได้เคยหารือกับหลายประเทศเพื่อให้ปฏิบัติกับเราอย่างเป็นธรรม การซ้อมรบกับประเทศต่างๆ นั้นมีราคาแพง-และเราก็จ่ายเงินส่วนใหญ่สำหรับการซ้อมรบเหล่านั้น"--(ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวหน่อยนะคะท่านทรัมป์-ก็ท่านรู้ทั้งรู้ว่า-การซ้อมรบมีราคาแพง-แล้วท่านยังจะตะบี้ตะบันใช้เงินภาษีของประชาชนซ้อมไปอีกทำไมละคร้า--คืออิฉันไม่ได้มีมุมมองแบบผู้นำประเทศน่ะคะ-เลยเป็น-งง!)--ทรัมป์ยังกล่าวต่ออีกว่า--"การซ้อมรบถูกมองจากเกาหลีเหนือว่าเป็นการยั่วยุ และเรากำลังเจรจาข้อตกลงที่ซับซ้อนมาก ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่จะมีการซ้อมรบต่อไป"--(เอ่อท่านคะ..ที่ยุติการซ้อมรบนี่-เพราะ-งบหมดหรือเปล่าคะท่าน-😕😕)

ชาวโลก-ก็ต้องคอยติดตามบทบาทของสองผู้นำในตอนต่อไป--ฉันไม่ได้มีความรู้มากมายเกี่ยวกับข่าวสารการเมืองโลกและในประเทศกับเขาหรอก--เพียงแค่อยากเก็บข้อมูล-คำพูดที่ได้ถูกจารึกว่าเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์-ไว้อ่านในวันข้างหน้า-ก็เท่านั้นเอง

ไปดูละครดีกว่า แล้วเจอกัน